ข้อมูลการออกอากาศ ของ อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 8

The Girl Who Won't Stop Talking

ออกอากาศ : 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550

สาวๆ ทั้ง 33 คนถูกส่งไปที่ลอสแอนเจลิส และเดินทางต่อไปยังค่ายทหาร จากนั้นพวกเธอก็ได้พบกับ เจย์ แมนูเอล และ มิสเจ.อเล็กแซนเดอร์ ซึ่งมาทำการทดสอบพวกเธอด้วยการถ่ายรูปโดยไม่ให้พวกเธอได้ตั้งตัวและทดสอบความรู้เรื่องแฟชั่น จากนั้นจึงส่งต่อพวกเธอไปให้กับไทร่า

หลังจากผ่านการทดสอบที่แคมป์แล้ว สาวๆ ก็ต้องเข้าสัมภาษณ์กับไทร่า เจย์ และมิสเจต่อ มิเชลีน ได้อวดรอยสักและบอกว่าเธอสักไว้ตามตัวมากกว่า 20 แห่ง สาวรัสเซียนาตาชาบอกว่าเธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 18 กับผู้ชายที่อายุมากกว่าถึง 20 ปี ดิออนเรียกสีผมของตัวเองว่า "1B-30." เพราะเธอไปต่อผมมาสองสี และการกลับมาของแจสลีน สาวลาตินผู้ซึ่งตกรอบจากการออดิชั่นในฤดูกาลก่อน

หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันถูกคัดเหลือ 20 คน พวกเธอก็ต้องไปถ่ายรูปกับ มาร์ค เอคโก เพื่อสำหรับคัดเลือกในรอบสุดท้าย และหลังจากคัดเลือก 13 คนสุดท้ายแล้ว ไทร่าก็ได้ได้ให้กำลังใจกับสาวๆ ที่ตกรอบโดยบอกให้พวกเธออย่ายอมแพ้และพยายามต่อไป

หลังจากที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว เจย์ แมนูเอล ก็มาหาสาวๆ ทั้ง 13 คนโดยไม่ให้ได้ตั้งตัว และพวกเธอก็ต้องถ่ายภาพครั้งแรกกันทันที โดยที่จะต้องถ่ายในหัวข้อมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกันดังนี้

นางแบบมุมมองทางการเมือง
บริททานีย์คลั่งไคล้ขนสัตว์
คาสซานดร้าชอบกินเนื้อ
ไดอาน่าคลั่งไคล้ปืน
ดิออนน์มังสวิรัต
เฟลิเชียการแต่งงานแบบปกติ
เจเอลสนุกกับชีวิต
แจสลีนเชื่อในการประหารชีวิต
แคธลีนต่อต้านขนสัตว์
นาตาชาชอบหาทางเลือก
เรเน่ต่อต้านปืน
ซาแมนธ่าการแต่งงานของเลสเบี้ยน
ซาร่าห์ชีวิตในคุก
วิทนีย์การแต่งงานของเลสเบี้ยน

การแข่งขันครั้งแรก สาวๆ ถูกพาไปที่กู๊ดวิลล์ จากนั้นพวกเธอต้องเลือกเสื้อผ้าจากในร้านเพื่อสร้างสไตล์ให้กับตัวเอง และไปเดินแบบโชว์ชุดที่หน้าห้างเพื่อให้ผู้ชมประมูลชุดของเธอ เจเอล ที่ถูกประมูลในราคาสูงที่สุดเป็นผู้ชนะในการแข่งขันและได้เป็นคนเซ็นต์เช็คในการประมูลการกุศลครั้งนี้ นอกจากนี้รางวัลของเธอก็คือ ฟิลลิป จะมาเมคโอเวอร์ให้เธอดูดีที่สุดก่อนเข้าห้องตัดสินครั้งแรก

ในห้องตัดสิน ภาพของแจสลีน เฟลิเชีย ซาแมนธ่า และบริททานีย์ ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก ในขณะภาพของสาวๆ คนอื่นออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ด้วยความที่ เจเอล กลัวว่าถ้าตัวเองทำออกมาได้ดีจะทำให้เพื่อนๆเกลียดทำให้เธอต้องกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับแคธลีน ผู้ซึ่งไม่สามารถจับประเด็นขอภาพหรืออะไรได้เลย และด้วยศักยภาพที่มีอยู่ของเจเอล ทำให้เธอได้อยู่ต่อและผู้ที่ต้องกลับบ้านก็คือ แคธลีน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : แจสลีน กอนซาเลซ
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เจเอล สเตราส์ และ แคธลีน เดอโจร์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : แคธลีน เดอโจร์
  • ช่างถ่ายภาพ : ไนเจล บาร์คเกอร์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : จอห์นธา ออสติน, เจอรไมน์ ดูปรี, รัสเซล แบร์, ฟิลลิป บล็อช, มาร์ค เอคโก

The Girls Go To Prom

ออกอากาศ : 7 มีนาคม พ.ศ. 2550

สาวๆ ได้กลับมาที่โรงเรียนมัธยมอีกครั้ง โดยมีมิสเจ.อเล็กแซนเดอร์ มาสอนการเดินบนรันเวย์ให้กับพวกเธอ จากนั้นพวกเธอต้องแข่งขันกันเดินแบบให้กับ รอย แคมป์เบลล์ ในโรงยิมของโรงเรียนด้วยหัวข้องานพรอมต่างๆ ในระหว่างเดินชุดของซาร่าที่ใหญ่เกินตัวทำให้หน้าอกของเธอหลุดออกมานอกเสื้อ แจสลีนที่เชื่อมั่นในการเดินของตัวเองมากกลับทำพลาดบ่อยที่สุด และผู้ชนะการแข่งครั้งนี้ก็คือ บริททานีย์

ในวันต่อมาสาวๆ ต้องกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้งเพื่อถ่ายรูป โดยพวกเธอต้องรับบทบาทเป็นสาวไฮสคูลในแบบต่างๆ ดังนี้

นางแบบประเภทนักเรียน
บริททานีย์คนกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณในวันจบการศึกษา
คาสซานดร้าเชียร์ลีดเดอร์
ไดอาน่าประธานนักเรียน
ดิออนน์เด็กเกเรประจำโรงเรียน
เฟลิเชียนักกีฬาโรงเรียน
เจเอลหนอนหนังสือ
แจสลีนเด็กแปลกแยก
นาตาชาพวกชอบประจบอาจารย์
เรเน่ตัวตลกประจำห้อง
ซาแมนธ่าสาวที่ชอบมีข่าวฉาวโฉ่
ซาร่าห์ดาวยั่วประจำห้องเรียน
วิทนีย์ตัวแสบทำตัวไฮโซ

ในห้องตัดสิน เป็นอีกครั้งที่ภาพของ แจสลีน ประทับใจกรรมการและชื่อของเธอก็ถูกเรียกเป็นคนแรกอีกครั้ง ในขณะที่นาตาชา และ ซาแมนธ่า ต่างก็ไม่สามารถที่จะสื่อความหมายออกมาในภาพได้ และทำให้พวกเธอต้องกลายเป็นสองคนสุดท้าย และสุดท้ายซาแมนธ่าต้องตกรอบเพราะกรรมการเห็นว่านาตาชามีบุคลิกที่เหนือกว่าเธอ

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : แจสลีน กอนซาเลซ
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : นาตาชา กัลคีน่า และ ซาแมนธ่า ฟรานซิส
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ซาแมนธ่า ฟรานซิส
  • ช่างถ่ายภาพ : คาร์ลอส ริออส
  • แขกรับเชิญพิเศษ : รอย แคมเบลล์, ฮอลลี่ โบว์แมน
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : แจสลีน กอนซาเลซ

The Girl Who Cries All The Time

ออกอากาศ : 14 มีนาคม พ.ศ. 2550

ถึงเวลาที่สาวๆ จะต้องแปลงโฉม ซึ่งสาวๆ ทุกคนต่างก็พึงกอใจในลุคส์ใหม่ของตัว และถึงแม้ว่าเจเอลจะต้องนั่งต่อผมอยู่เป็นเวลานานถึง 8 ชั่วโมงและสุดท้ายต้องถูกเอาออกหมด แต่เธอก็ยังพอใจในลุคส์ใหม่ของตัวเองอยู่ดีการแข่งขันประจำสัปดาห์ สาวๆ ต้องแต่งหน้าให้เข้ากับลุคส์ของตัวเองให้มากที่สุด บริททานีย์เป็นผู้ชนะในการแข่งขันซึ่งรางวัลของเธอก็คือถ่ายภาพลงนิตยสารเซเว่นทีน ซึ่งเธอเลือกให้เจเอลกับซาร่าห์ ไปถ่ายรูปด้วย ในการถ่ายรูปครั้งนี้ สาวๆ จะต้องถ่ายนู้ดและมีเพียงขนมหวานห่อหุ้มตัวแทนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ แต่ก่อนจะถึงวันถ่าย เจเอลก็ได้รับข่าวร้ายเรื่องเพื่อนสนิทของเธอเสพย์ยาเกินขนาดและเสียชีวิต ซึ่งทำให้เธอสะเทือนใจมาก แต่เธอก็ฝืนมาทำงานร่วมกับผู้แข่งขันคนอื่นๆ ซึ่งจะต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นของหวานชนิดต่างๆ ดังนี้

นางแบบขนมหวาน
บริททานีย์บานาน่า สปลิท
คาสซานดร้าเยลลี่บีน
ไดอาน่ากัมมี่แบร์
ดิออนน์ลูกกวาดแคนดี้แคน
เฟลิเชียอมยิ้มโลลลี่ป็อบ
เจเอลเค้กวันเกิด
แจสลีนครีมมูสดูลเซ่ เดอ เลเช่
นาตาชาลูกอมกัมส์บอลล์
เรเน่น้ำตาลแท่ง
ซาร่าห์ฮาร์ดแคนดี้
วิทนีย์ช็อคโกแล็ตคิส

ในห้องตัดสิน กรรมการประทับใจในความคิดสร้างสรรค์ขอ บริททานีย์ และชื่นชมในความอดทนของเจเอลที่เพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆ มา และสองสาวที่ต้องเป็นสองคนสุดท้ายก็คือ คาสซานดร้า ผู้ซึ่งมีจิตใจงดงามทั้งภายนอกและภายใน แต่ยังไม่เห็นแววในภาพถ่าย และ ไดอาน่า ผู้ที่กังวลและไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเองจนแสดงออกมาในภาพ และคนที่ต้องตกรอบก็คือ คาสซานดร้า ที่ไม่สามารถถ่ายทอดความงามของตัวเองลงในรูปได้

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : บริททานีย์ แฮทช์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : แคสแซนดรา วัทสัน และ ไดอาน่า ซาเลวสกี้
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : แคสแซนดรา วัทสัน
  • ช่างถ่ายภาพ : โจเซฟ คัลทิซ
  • แขกรับเชิญพิเศษ : นีโก้, โรแซนน่า ฟลอยด์, คาริสซ่า โรเซนต์เบิร์ก
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : แจสลีน กอนซาเลซ

The Girl Who Changes Her Attitude

ออกอากาศ : 21 มีนาคม พ.ศ. 2550

เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อดิออนน์รู้สึกว่าเรเน่เป็นคนเสแสร้งแล้วไม่ชอบใจที่เรเน่ไปสนิทสนมกับบริททานีย์ และเรื่องนี้ทำให้เรเน่และดิออนน์เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงจนเฟลิเชียต้องมาหยุดการทะเลาะของพวกเธอ

ในสัปดาห์นี้ผู้เข้าแข่งขันได้ไปเรียนการโพสท่ากับ เบนนี่ นินจา สุดยอดปรมาจารย์การโพสท่าจาก โวกกิ้ง จากนั้นสาวๆ จะต้องแข่งกันโพสท่าผ่านแสงเลเซอร์ในเวลาจำกัดแค่ 2 นาที ซึ่งสาวๆ ทุกคนต่างก็ผ่านไปกันได้หมดยกเว้นเรเน่ และผู้ชนะในการแข่งก็คือวิทนีย์ ซึ่งรางวัลของเธอก็คือ สร้อยข้อมือเพชรมูลค่า 40,000 ดอลล่าห์

การถ่ายภาพในครั้งนี้ สาวๆ ต้องจำลองเหตุการณ์ฆาตกรรมในแบบต่างๆ ดังต่อไปนี้

นางแบบการฆาตกรรม
บริททานีย์ถูกไฟฟ้าช็อตในห้องน้ำ
ไดอาน่าถูกฆ่าผ่าขโมยอวัยวะ
ดิออนน์ถูกยิง
เฟลิเชียถูกฆ่ารัดคอ
เจเอลถูกฆ่าหักคอ
แจสลีนถูกผลักตกตึก
นาตาชาจมน้ำตาย
เรเน่ถูกวางยาพิษ
ซาร่าห์ตกบันได
วิทนีย์ถูกแทง

ในห้องตัดสิน ภาพของเฟลิเชียไม่ได้ผลตอบรับที่ดีนัก ทำให้เธอต้องเป็นสองคนสุดท้ายกับดิออนน์ ซึ่งได้ภาพออกมาดีแต่ลุคส์ของเธอกลับไม่มีความเป็นนางแบบเลยแม้แต่น้อย และสุดท้ายภาพที่ไร้ชีวิตชีวาของเฟลิเชียก็ทำให้เธอต้องตกรอบ

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เรเน่ ออลเวย์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ดิออนน์ วอลเทอร์ส และ เฟลิเชีย โพรโวสท์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เฟลิเชีย โพรโวสท์
  • ช่างถ่ายภาพ : ไมค์ โรเซนทอล
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เบนนี่ นินจา
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : จาเอล สตรอสส์

The Girl Who Takes Credit

ออกอากาศ : 28 มีนาคม พ.ศ. 2550

ในสัปดาห์นี้สาวๆ ต้องไปพบกับ เคธี่ โกลด์ ผู้อำนวยการของอิลีท โมเดล เมเนจเมนท์ เพื่อเรียนรู้เรื่องของแฟชั่น และเสื้อผ้าแบบที่ไม่ควรใส่ จากนั้นในวันต่อมาพวกเธอได้ถูกแบ่งกลุ่มเพื่อแข่งความสร้างสรรค์ลุคส์แฟชั่นในการตกแต่งหน้าร้านในพื้นที่จำกัด โดยพวกเธอต้องทำออกมาให้เข้ากับลุคส์ตัวเองและลุคส์โดยรวมของกลุ่มด้วย กลุ่มของวิทนีย์และนาตาชาทำออกมาได้ถูกใจกรรมการที่สุด แต่เพราะวิทนีย์ไม่ยอมอยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่กำหนดไว้ ทำให้กลุ่มของเธอถูกตัดสิทธิ์ และทำให้กลุ่มของดิออนน์ ซาร่า เรเน่ ชนะไป และซาร่าห์ได้ถูกเลือกเป็นผู้ชนะเดี่ยว ซึ่งรางวัลของเธอก็คือการได้ถ่ายภาพประจำสัปดาห์ 2 ครั้ง โดยเธอจะสามารถดูและเลือกแก้ไขภาพทั้งหมดที่ถ่ายได้ ซึ่งทำให้เรเน่กับดิออนน์ไม่พอใจมาก เพราะพวกเธอเป็นคนเลือกเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้กับซาร่าห์ทั้งหมดโดยที่ซาร่าห์ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย

การถ่ายรูปในครั้งนี้ สาวๆ จะต้องถ่ายรูปคู่รักกับเหล่านายแบบ โดยต้องสลับเพศชายหญิงกัน โดยแต่ละคู่ต้องสวมบทบาทดังนี้

นางแบบคู่รัก
บริททานีย์คู่รักที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ไดอาน่าคู่รักพรมแดง
ดิออนน์คู่รักมีอำนาจ
เจเอลคู่รักโบฮีเมี่ยน
แจสลีนคู่รักนักเดินเรือ
นาตาชาคู่รักฮิบฮอป
เรเน่คู่รักร็อคสตาร์
ซาร่าห์คู่รักร็อคเกอร์
วิทนีย์คู่รักนักศึกษา

ในห้องตัดสิน กรรมการชื่นชอบภาพของบริททานีย์ และ แจสลีน และประทับใจในความคิดสร้างสรรค์ของนาตาชา ในขณะที่วิทนีย์ และ ไดอาน่า ต้องยืนเป็นสองคนสุดท้าย ซึ่งกรรมการรู้สึกว่าไดอาน่าได้หมดความกระตือรือล้นและสงสัยว่าเธอต้องการมันจริงรึเปล่า และนั่นเป็นสาเหตุที่ไดอาน่าต้องตกรอบไป

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : นาตาชา กัลคีน่า
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ไดอาน่า ซาเลวสกี้ และ วิทนีย์ คันนิ่งแฮม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ไดอาน่า ซาเลวสกี้
  • ช่างถ่ายภาพ : ริชาร์ด เรนส์ดอลฟ์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เคธี่ โกลด์, เดด้า โคเบน
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : วิทนีย์ คันนิ่งแฮม

The Girl Who Gets Thrown In The Pool

ออกอากาศ : 4 เมษายน พ.ศ. 2550

ในสัปดาห์นี้ สาวๆ ได้พบกับทวิกกี้และเมลโรส บิคเคอร์สตาฟฟ์ จากฤดูกาลที่ 7 โดยพวกเธอได้เรียนรู้ที่จะตั้งชื่อเล่นนามแฝงในวงการนี้ให้กับตัวเอง โดยพวกเธอจะได้ไปงานเลี้ยงเพื่อแนะนำตัวเองด้วยชื่อเล่นใหม่ ในงานเลี้ยงเจเอลได้เล่นเลยเถิดกับนักร้อง 50 เซนต์ จนเขารำคาญและถูกเขาผลักลงสระน้ำ จากนั้นพวกเธอได้สัมภาษณ์เป็นการส่วนตัวกับ เบนนี่ เมดิน่า ซึ่งเป็นผู้จัดการของไทร่า เรเน่ได้นินทาจาเอลให้นิโคล ริชชี่ฟัง ซึ่งเมื่อเจเอลรู้เข้า พวกเธอทั้งคู่ก็ทะเลาะกันอย่างใหญ่โต และในการสัมภาษณ์กลับเบนนี่ ผู้ชนะก็คือดิออนน์ ซึ่งรางวัลของเธอก็คือการถ่ายแบบให้กับเคด เพื่อลงนิตยสารเซเว่นทีน และเธอเลือกให้แจสลีนกับวิทนีย์ ได้รางวัลร่วมกับเธอด้วย

การถ่ายรูปในครั้งนี้สาวๆ จะต้องแต่งหน้าทำผมกันเอง เพื่อถ่ายรูปบุคลิกต่างๆ ดังนี้

นางแบบบุคลิกต่างๆชื่อเล่น
บริททานีย์ไร้เดียงสา, หลุดโลก, ความลับวายร้าย, ตัวยุ่งบริท
ดิออนน์เป็นมิตร, มารร้าย, ปิดบัง, อ่อนโยนฮูลาเฮย์ (บราวน์)
เจเอลอสูรสุดเซ็กซี่, อนาธิปไตย, นักอนุรักษ์หัวรั้น, ผู้มีอำนาจจาเอล
แจสลีนอารมณ์อ่อนไหว, สาวประเภทสอง, ชาช่าดีว่า, นางแบบแจสลีน
นาตาชามีความสุข, ประหลาดใจ, เศร้า, เซ็กซี่นาธาห์
เรเน่ยั่วยวน, ด้านมืด, ความเป็นแม่, เศร้าเสียใจนาอีน (เนเน่)
ซาร่าห์ไร้เดียงสา, โกรธเกรี้ยว, โศกเศร้า, มีความสุขโมว์
วิทนีย์มีความลับ, สงบสุข, นักคิด, ตัวตลกวิทเทล

วันต่อมา ไทร่าได้เข้ามาพูดคุยกับสาวๆ เรเน่ถูกคนอื่นๆ โจมตีในสิ่งต่างๆ ที่เธอเคยทำไว้ ไทร่าจึงจัดการไกล่เกลี่ยและให้โอกาสให้เรเน่ได้กล่าวขอโทษกับทุกๆ คน

ในห้องตัดสิน ภาพของเจเอล นาตาชา ดิออนน์ บริทนีย์ และเรเน่ สร้างความประทับใจให้กรรมการมาก ในขณะที่แจสลีนได้รับคำวิจารณ์ว่าภาพถ่ายทั้ง 4 รูปออกมาเหมือนกันหมด กรรมการรู้สึกว่าซาร่าห์โพสท่ามากเกินไป ในขณะที่วิทนีย์ยังไม่เคยได้ภาพที่ดูโดดเด่นเลยซักครั้ง และทำให้พวกเธอกลายเป็นสองคนสุดท้าย แต่วิทนีย์ได้โอกาสจากกรรมการอีกครั้งทำให้ซาร่าเป็นผู้ที่ต้องกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เจเอล สเตราส์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ซาร่า วอนเดอร์ฮาร์ และ วิทนีย์ คันนิ่งแฮม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ซาร่า วอนเดอร์ฮาร์
  • ช่างถ่ายภาพ : คารีม แบล็ค
  • แขกรับเชิญพิเศษ : 50 เซ็นต์, เมลโรส บิคเคอร์สตาฟฟ์, นิโคล ริชชี่, ปารีส ฮิลตัน, เบเวอลีย์ จอหน์สัน, แนนซี่ โจเซฟสัน, นิคกี้ แฮสเคล, ลอร์รีย์ แซนิตสกี้, เบนนี่ เมดิน่า, เทีย เมาว์รีย์, ทาเมร่า เมาว์รีย์, บิล มาเฮอร์, มาร์คัส คลินโก้ และ อินดรานี่, เจนนิเฟอร์ ไวเดอร์แมน
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : นาตาชา กัลคีน่า

The Girl Who Impresses Pedro

ออกอากาศ : 11 เมษายน พ.ศ. 2550

หลังจากจบการตัดสิน เรเน่ได้เขียนจดหมายขอโทษสาวๆ ทุกคนที่เธอเคยทำไม่ดีเอาไว้ ซึ่งสาวๆ ทุกคนให้อภัยเรเน่ และวันต่อมาไทร่าได้ให้สไตล์ลิสต์นำผมของบริททานีย์ออกเพราะบริททานีย์รู้สึกระคายเคืองกับผมที่ต่อเอาไว้

สาวๆ ได้เรียนการแสดงกับ เทีย มาวรีย์ และจากนั้นพวกเธอต้องทดสอบการแสดงคู่กับ เอเฟรน รามิเรซ นักแสดงชื่อดังจาก นโปเลียน ไดนาไมท์ เรเน่เป็นผู้ชนะการแข่งขันซึ่งเธอเลือกดิออนน์ให้ได้รางวัลร่วมกับเธอด้วย ซึ่งก็คือการให้ครอบครัวมายี่ยมที่บ้าน นาตาชารู้สึกเสียใจมากเพราะเธอเองก็อยากจะพบครอบครัวของเธอเหมือนกัน แต่สุดท้ายเธอก็ทำใจและสลัดความเสียใจออกไปได้

ในการถ่ายรูปครั้งนี้ สาวๆ ต้องถ่ายรูปกับนางแบบของรายการในฤดูกาลก่อนๆ โดยพวกเธอต้องถ่ายภาพเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่เคยเกิดขึ้นในรูปแบบการ์ตูนดังต่อไปนี้

นางแบบเหตุการณ์ฉาวในฤดูกาลก่อน
บริททานีย์นางแบบฝาแฝด (อแมนด้ากับมิเชลล์ จากฤดูกาลที่ 7)
ดิออนน์จูบบนรถลีโม (คิม จากฤดูกาลที่ 5)
เจเอลหมดสติในห้องตัดสิน (รีเบคก้า จากฤดูกาลที่ 4)
แจสลีนใครเป็นคนขโมยกราโนล่าบาร์ (บรี จากฤดูกาลที่ 5)
นาตาชาแบตทีเรียกินผิว (มิเชลล์จากฤดูกาลที่ 4)
เรเน่ถอนฟันคุด (โจนนี่ จากฤดูกาลที่ 6)
วิทนีย์ไม่ยอมถ่ายนู๊ด (แชนน่อน จากฤดูกาลที่ 1)

ในห้องตัดสิน ภาพของดิออนน์ นาตาชา และบริททานีย์ ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก ในขณะที่เจเอลกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับวิทนีย์ เพราะไม่สามารถแสดงความหลากหลายในรูปได้และการแสดงออกในห้องตัดสิน แต่ผลงานที่ผ่านมายังดีอยู่ ดังนั้นวิทนีย์ต้องตกรอบเพราะไม่สามารถที่จะถ่ายทอดความงามของเธอลงบนรูปถ่ายได้เลย

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : ดิออนน์ วอลเทอร์ส
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : เจเอล สเตราส์ และ วิทนีย์ คันนิ่งแฮม
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : วิทนีย์ คันนิ่งแฮม
  • ช่างถ่ายภาพ : แมทธิว จอร์แดน สมิธ
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เทีย เมาว์รีย์, เอเฟรน รามิเรซ, รีเบ็คก้า เอฟลีย์, คิม สล็อตซ์, โจนนี่ย์ ดอกกส์, มิเชลล์ ดีเอห์ตัน, บรี สคัลลาร์ค, มิเชล และ อแมนด้า บาบิน, แชนน่อน สเตวาร์ท, คริสเตียน มาร์ค
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : แจสลีน กอนซาเลซ

The Girls Go Down Under

ออกอากาศ : 18 เมษายน พ.ศ. 2550

ในสัปดาห์นี้ สาวๆ ได้เอพริล จากฤดูกาลที่ 2 และ แกรี่ ดิออทโต้ มาให้คำแนะนำในการสัมภาษณ์ รวมทั้งสอนให้สาวๆ รู้จักการให้สัมภาษณ์แบบดีและไม่ดี จากนั้นพวกเธอต้องเก็บกระเป๋าเพื่อบินไปแข่งกันต่อที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ทันทีที่มาถึง สาวๆ ก็ต้องแข่งกันสัมภาษณ์ผู้คนด้วยภาษาแสลงของออสเตรเลีย นาตาชาเป็นผู้ชนะในการแข่งขันและเธอก็ได้เป็นพิธีกรร่วมในรายการไทร่า แบงค์โชว์

การถ่ายรูปในสัปดาห์นี้ สาวๆ จะต้องถ่ายโฆษณาให้กับคัฟเวอร์เกิร์ลเป็นสำเนียงออสเตรเลีย โฆษณาของนาตาชาทำให้ไทร่าแปลกใจเพราะสำเนียงของเธอดีผิดคาด บริททนีย์ มีปัญหาเรื่องความจำสั้น ทำให้เธอต้องกลายเป็นสองคนสุดท้ายกับ เจเอล ที่มีบุคลิกภาพดี แต่กลับไม่โดดเด่นเวลาถ่ายโฆษณา แต่ด้วยผลงานที่ผ่านมาตลอดของบริทนีย์ ทำให้เธอได้ผ่านเข้ารอบต่อไป และจาเอลเป็นผู้ที่ต้องตกรอบ

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : นาตาชา กัลคีน่า
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : บริทนีย์ แฮทช์ และ เจเอล สเตราส์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เจเอล สเตราส์
  • ผู้กำกับโฆษณา : ไซมอน ฮิกกินส์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : เอพริล วิลค์เนอร์, เอริก้า เฮย์แนทซ์, แกรี่ รีออทโต้, นิค ฮัดสัน
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : นาตาชา กัลคีน่า

The Girl Who Picks A Fight

ออกอากาศ : 25 เมษายน พ.ศ. 2550

ประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน และภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เช่นการรบกวนคนทั้งบ้านของเจเอล จนเรเน่ทนไม่ไหวต้องย้ายห้องหนี เหตุการณ์วันพักผ่อนของสาวๆ กับการระบายความในใจของแจสลีน การทำความสะอาดบ้านของนาตาชากับเรเน่ และเหตุการณ์ตอนที่คาสซานดร้าต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากถ่ายภาพนู้ด

The Girl Who Blames The Taxi Driver

ออกอากาศ : 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

ผู้เข้าแข่งขันห้าคนที่เหลือต้องออกโชว์ตัวกับบรรดาดีไซน์เนอร์ในซิดนีย์โดยมีเวลาจำกัดแค่ 4 ชั่วโมง นาตาชาและบริททานีย์ กลับมาไม่ทันเวลาและถูกตัดสิทธิ์ ทำให้บริททานีย์ โมโหจนสติแตก บรรดาดีไซน์เนอร์ประทับใจผลงานของแจสลีนมากที่สุด และเธอเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้ ซึ่งรางวัลของเธอก็คือการได้ไปถ่ายรูปที่สะพานฮาร์เบอร์ บริดจ์ ที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย และเธอก็เลือกให้ดิออนน์ได้ไปถ่ายรูปกับเธอด้วย

การถ่ายภาพในครั้งนี้ สาวๆ จะต้องถ่ายภาพชุดว่ายน้ำให้กับนิตยสารผู้หญิง และนิตยสารผู้ชาย ไทร่าประทับใจกับความหลากหลายของแจสลีน ในขณะที่การทำงานของดิออนน์ออกมาน่าผิดหวัง

ในห้องตัดสิน ภาพถ่ายของดิออนน์ไม่สามารถทำให้กรรมการประทับใจได้เลย ในขณะที่ภาพของบริททานีย์ออกมาดูสวยแต่บุคลิกของเธอกลับไม่มีเสนห์และไม่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากดีไซน์เนอร์เลยแม้แต่น้อย และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องถูกส่งกลับบ้าน

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : แจสลีน กอนซาเลซ
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : บริททานีย์ แฮทช์ และ ดิออนน์ วอลเทอร์ส
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : บริททานีย์ แฮทช์
  • ช่างถ่ายภาพ : ไทร่า แบงส์, ไมเคิล โอมม์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : โจดี้ มีอาเรส, พริสซิลล่า ลีเอจห์ตัน, เวย์เน่ คูปเปอร์, ลิลล์ บอยด์, แอนนา เฮเวทท์, ทีน่า คาลิวาส, เจย์สัน บรันส์ดอน, อราเบลลา แรมเซย์, อลิซ แมคคอล, คิท วิลโลว์, เดวิด สคิโอลา, แบรด โรป, เอเดรียน อัลเลน, ทาเมท วิลเลี่ยม, ซามูเอล ซิเรน่า
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : นาตาชา กัลคีน่า

The Girl Who Does Not Want To Dance

ออกอากาศ : 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

ผู้เข้าแข่งขันสี่คนสุดท้ายได้ไปเรียนรู้การใช้ท่าทางในการเล่าเรื่อง และการเต้นรำพื้นบ้าน จากนั้นพวกเธอต้องแข่งกันใช้ท่าทางอะบอริจิ้นในการเล่าเรื่องของตัวเอง เรเน่เป็นผู้ชนะในการแข่ง ซึ่งรางวัลของเธอก็คือสร้อยมุก และแธอเลือกแจสลีนให้ได้รางวัลร่วมกับเธอด้วย คืนนั้น สาวๆ ได้ออกไปเที่ยวในเมืองกัน แต่นาตาชากลับป่วย นอนซมอยู่กับบ้าน สาวๆ จึงถือโอกาสนินทาเรื่องของสามีและลูกของเธออย่างสนุกสนาน

การถ่ายภาพครั้งนี้สาวๆ จะต้องถ่ายภาพแสดงอารมณ์ผ่านการเต้นรำพื้นบ้านดังนี้

นางแบบท่าเต้นอะบอริจิ้น
ดิออนน์การเต้นหาอาหาร
แจสลีนการเต้นนกโรบิ้นแดง
นาตาชาการเต้นระบำแกว่งหาง
เรเน่การเต้นรำของผีเสื้อ

ในห้องตัดสิน ภาพถ่ายของเรเน่ได้รับคำชมว่าเป็นภาพที่ดีที่สุด และกรรมการก็ประทับใจในความคิดและประสิทธิภาพของแจสลีน ในขณะที่ภาพของดิออนน์กับนาตาชาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะภาพของนาตาชาได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นภาพที่แย่ที่สุดของเธอเมื่อไทร่าถามถึงประสิทธิภาพของนางแบบแต่ละคน โดยสาวๆ จะต้องวิจารณ์เพื่อนๆ แต่ละคน นาตาชาถูกสาวๆ รุมโจมตี แต่เธอก็สามารถรับสถานการณ์ได้ด้วยความใจเย็น มีเพียงแจสลินที่บอกกับกรรมการว่าเธอรู้สึกว่ามีประสิทธิภาพในการเป็นนางแบบน้อยกว่าคนอื่น กรรมการต่างลงความเห็นว่าดิออนน์มีพัฒนาการที่ไม่สม่ำเสมอ และยังไม่เชื่อในประสิทธิภาพของตัวเองซึ่งทำให้เธอและนาตาชาต้องกลายเป็นสองคนสุดท้าย และสุดท้ายดิออนน์ต้องเป็นผู้ตกรอบ เพราะกรรมการเห็นว่านาตาชามีพัฒนาการและได้ปรับปรุงตัวเองได้มากกว่า

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : เรเน่ ออลเวย์
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : ดิออนน์ วอลเทอร์ส และ นาตาชา กัลคีน่า
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : ดิออนน์ วอลเทอร์ส
  • ช่างถ่ายภาพ : เคน สเคนนาร์
  • แขกรับเชิญพิเศษ : คาริสซ่า โรเซนเบิร์ก, อังเคิล แม็กซ์, คาลิต้า เมอร์เรย์, จัสติน แสคช์วารซ์, ชารอน วิลเลียมส์
  • สาวคัฟเวอร์เกิร์ลประจำสัปดาห์ : แจสลีน กอนซาเลซ

The Girl Who Becomes America's Next Top Model

ออกอากาศ : 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

สามสาวที่เหลือได้ถูกพาไปถ่ายโฆษณาลิปสติก ให้กับ คัฟเวอร์เกิร์ล นาตาชาทำออกมาได้ดูเป็นธรรมชาติถึงแม้จะต้องดูสคริปต์ก็ตาม แจสลีนเพิ่มภาษาสเปนของเธอลงไปในโฆษณาก็ได้รับคำชมเป็นอย่างมากแต่ภาพของแจสลีนกลับดูเป็นการค้ามากเกินไป ในขณะที่ภาพของเรเน่ได้รับคำวิจารณ์ว่าดูแก่กว่าอายุจริงซึ่งทำให้เธอต้องตกเป็นสองคนสุดท้ายเป็นครั้งแรกและต้องถูกคัดออก

  • ผู้ที่ถูกเรียกชื่อคนแรก : แจสลีน กอนซาเลซ
  • ผู้ที่ยืนเป็นสองคนสุดท้าย : นาตาชา กัลคีน่า และ เรเน่ ออลเวย์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก : เรเน่ ออลเวย์
  • ช่างถ่ายภาพ : จิม เดอ ยอนเกอร์

จากนั้นสาวๆ ต้องไปถ่ายภาพให้กับนิตยสารเซเว่นทีน จากนั้นไทร่าได้มาคุยกับสองสาวตัวต่อตัวก่อนจะพาไปที่รันเวย์ โดยสาวๆ จะต้องเดินแบบในคอนเซปต์วิวัฒนาการทางแฟชั่น โดยมีแคริดี อิงลิช ผู้ชนะจากฤดูกาลที่ 7 เข้าร่วมเดินด้วย แจสลีนเริ่มต้นค่อนข้างแผ่ว แต่เมื่อเดินไปก็เริ่มแรงและเป็นธรรมชาติขึ้น และระหว่างที่นาตาชากำลังเดินอยู่กระโปรงของเธอเกิดเลื่อนหลุดไปกองกับพื้น แต่นาตาชาก็แก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

ในการตัดสินครั้งสุดท้าย กรรมการต่างลงความเห็นว่าทั้งสองสาวต่างมีคุณสมบัติพอที่จะเป็นผู้ชนะทั้งคู่ นาตาชาดูโดดเด่น มีพัฒนาการ และหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ส่วนแจสลีนเองก็ความหลากหลาย ดูมีความเป็นสากล ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแฟชั่น สองสาวต่างก็มีข้อดีกันจนกรรมการต่างพากันคิดหนัก และหลังจากที่พิจารณากันอย่างถี่ถ้วนแล้ว คณะกรรมการก็ตัดสินใจและประกาศว่า ผู้ชนะในฤดูกาลที่ 8 ก็คือ แจสลีน กอนซาเลซ

  • ผู้ชิงตำแหน่งสองคนสุดท้าย : แจสลีน กอนซาเลซ และ นาตาชา กัลคีน่า
  • อเมริกา เน็กซต์ ท็อป โมเดล : แจสลีน กอนซาเลซ
  • แขกรับเชิญพิเศษ : แคริดี อิงลิช, เบรนท์ โพเออร์, ซาร่าห์ เจน คลาร์ค, ไฮดี้ มิดเดิลตัน, คาริสซ่า โรเซนเบิร์ก

ใกล้เคียง

อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 14 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 24 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 23 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 8 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 20 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 6 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 9 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 7 อเมริกาส์เน็กซต์ท็อปโมเดล ฤดูกาลที่ 5